วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

เป็ปซี่ & โคล่า {จากน้องจร(จัด)สู่ฮีโร่ตัวจริง}

เมื่อคืนวันที่ 17 มกราคม ประมาณ 4 ทุ่มเศษ แม่โทรมาบอกว่าเป็ปซี่กับโคล่าเห่าไม่ยอมหยุด จนแม่ต้องโผล่ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าไฟไหม้กองหญ้าแห้งสูงประมาณปลายยอดไม้ อยู่ติดกับรั่วของเพื่อนบ้านซึ่งหากจากบ้านเราไปประมาณ 400 เมตร แม่เลยต้องปลุกพ่อไปช่วยกันดับไฟ..เป็ปซี่กับโคล่าเลยกลายเป็นฮีโร่ไปเลย..แม่ชมเปาะ บอกตอนนี้ที่บ้านเลยกลายเป็นมีหมาเฝ้าบ้านดีๆ เพราะเจ้า 2 ตัวใหญ่ ชิบิกับค็อปเตอร์ก็แก่มากแล้ว หูตาไม่ค่อยจะดี อ้วนและวิ่งก็ไม่ค่อยไหว..เจ้าเป็ปซี่กับโคล่ายังเด็กมี energy สูงมาก วิ่งดูรอบบ้านตลอด อาจเป็นเพราะเคยอยู่เมืองใหญ่มา อาศัยอยู่ข้างถนน ทำให้มีสัญชาติญาณในการป้องกันตัวสูง แล้วตอนนี้เค้ารู้สึกรักและห่วงแหนบ้าน เพราะรู้ว่าบ้านหลังนี้คืออาณาเขตของตัวเอง เป็นที่ซึ่งมันนอนได้สบาย มีข้าวให้กินอิ่มท้อง มีพ่อกับแม่ที่ทั้งสองตัวจะต้องคอยดูแล..
แป็บซี่..นอกจากชอบนั่งอยู่บนม้านั่งสูงหน้าบ้านแล้ว ตอนกลางคืนก็จะไปนอนตรงบันไดหลังบ้าน ซึ่งจุดที่นอนอยู่จะสามารถมองเห็นหน้าบ้านได้ด้วย..ฉลาดเลือกที่นอนจริงๆ..แต่เจ้าเป็ปซี่อ่ะ..เป็นหมาในเมือง พอเค้าเห็นวัวหรือควายก็ตกใจเห่าน่าดู..(แอบขำ) แต่แม่บอกว่าช่วงนี้เห่าน้อยลงแล้ว คงเพราะจะเริ่มชินที่เห็นว่ามีเจ้าสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ๆสีดำๆขาวๆแบบนี้ กินหญ้าอยู่บริเวณรั้วรอบนอกของบ้าน (555)
ส่วนตัวโคล่าเอง..ถึงจะเป็นหมาหน้าตาดุ แต่สายตาของมันเฉียบแหลมเป็นที่หนึ่ง..สัญชาตญาณในการระวังภัยของเค้ามีสูงมาก..ชอบนอนบนเก้าอี้ไม้ขาสิงห์ตัวใหญ่หน้าบ้าน..แต่พ่อบอกว่าเจ้าค็อปเตอร์พอเห็นเค้ามีที่นอนดีๆสบายๆก็ชอบไปแย่งนอน..ฉะนั้นสมาชิกใหม่ก็ต้องหลีกทางให้เจ้าถิ่นไปตามระเบียบ
แม่เล่าว่า เวลามีเสียงอะไรแปลกๆ อยู่นอกบ้าน เช่น มีเด็กมาปั่นจักรยานอยู่หน้าบ้าน มีรถซาเล็งขับผ่าน เจ้า 2 ตัวนี้จะเห่าตลอด ทำให้เรารู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หรือเวลาที่ใครมาหาเราอยู่หน้าบ้านเค้าทั้งสองจะเห่าจนพ่อกับแม่ต้องโผล่หน้าออกมาดูแล้วก็รู้ว่ามีแขกมา แต่พอแขกเข้าบ้านแล้ว เป็ปซี่กะโคล่า เค้าก็ทำตัวน่ารัก ไม่เข้ามาจุ้นจ้านวุ่นวายหรือเห่าให้รำคาญใจเลย..

ตอนนี้ทั้งพ่อและแม่ก็ปลื้มและชื่นชมกับเค้าทั้งคู่มาก..ตัวเราเองก็ดีใจ เพราะไม่เคยคาดหวังว่าเค้าจะทำตัวน่ารัก คอยเฝ้าและดูแลบ้านได้ดีขนาดนี้..แค่อยากให้เค้ามีชีวิตรอด มีที่อยู่ที่กินดีๆก็แค่นั้น..แต่นี่เค้าดีเกินคาด..ปลื้มใจ..และดีใจ..ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์พาเค้าทั้งคู่ขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพ ไปเลี้ยงถึงหนองคายเลย..อิอิ

ขอบคุณของขวัญวันคริสมาสต์ ปี 2010 (25 ธันวาคม 2010: เป็นวันแรกที่เป็ปซี่กะโคล่ามาอยู่บ้านที่หนองคาย)..เรื่องโดย..จี๊ป


ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆๆของเพื่อนสนิท ที่เขียนเรื่องนี้ในเฟสบุ๊ค เธอทุ่มเท กับสิ่งมีชีวิตข้างถนน โดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน แต่การทีี่เธอมอบโอกาสให้ สองชีวิตนี้ มันก็ทำให้ สองชีวิตนี้ ช่วย สอง ชีวิต คือพ่อกะแม่เธอได้
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ค่ะ เพื่อน

2 ความคิดเห็น:

  1. ^______^"

    อ่านแล้วชอบมากๆๆๆๆเลยค่ะ น่ารักดี
    แล้วก็นึกถึงหมาที่บ้าน...อามก็โตมากับหมา ที่บ้านจะเลี้ยงหมาตลอด สองตัวบ้าง สามตัวบ้าง ตอนนี้เหลือตัวเดียวเอง...มันเป็นความสุขมากๆเลยที่ได้เล่น ได้อยู่กับเพื่อนที่น่ารักแบบนั้น หลายครั้งที่มันจะเห่าและกัดงูที่เข้ามาในบ้าน หลายครั้งมันก็ทำข้าวของเสียหายไปบ้าง ฮ่าๆ แต่รวมๆแล้วดีมากเลยที่บ้านมีพวกมันอยู่ อามว่ามันเข้าใจและรู้เรื่องต่างๆมากเลยนะคะ ที่สำคัญก็คือความซื่อสัตว์ จริงใจและเสมอต้นเสมอปลาย...เป็นสิ่งที่หลายครั้งก็อาจหาไม่พบในเพื่อนมนุษย์ ฮ่าๆๆ แต่พวกมันมีให้เราเสมอค่ะ

    ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆค่ะ
    อาม

    ตอบลบ
  2. คิดถึงหมายสองตัวที่เคยเลี้ยงและเคยเล่นกันมันจังเลย
    ตัวแรกสิงโต เป้็นแบบที่พี่หน่อยเล่ามาเลย ^^ แต่ก็โดนคนบ้าเบือด้วยเหตุผลที่ว่า ก็กุรำคาญมันเห่าใครจะทำไม???

    ตัวที่สอง ซำม๊า หมาบ้านเพื่อนที่นครนายก
    ตัวนี้ฉลาดมากกกก มันแยกออกจริงๆๆว่าใครเป็นมิตรรึใครมาแบบไม่เป็นมิตร
    หนูมาครั้งแรกทุกคนบอกระวังนะซำม๊าชอบกัดคนอย่าไปยุ่งนะลูก!!!!
    แต่หนูเข้าลูบๆๆหัวกะให้ไส้กรอกมันกิน เท่านั้นแหละรักกันเลย
    หลังจากนั้นเจอทีไรเป็นกระดิกหาง ตะปบบด้วยความดีใจเข้ามาอ้อนๆๆ
    แต่นะติดสาวบ้านข้างๆๆรถชนตาย!!!!! ตอนตายเสียใจมากอะ

    หมาหนูว่าเป็นสัตว์ที่มีเซนส์ดีมากกก สัตว์น่ารักสุดๆๆ
    ^^ อ่านแล้วคิดถึงจัง

    ps.เอ๊ะมันเกี่ยวกะเรื่องพี่หน่อยมั๊ยเนี่ยะเหมือนเอาน้องหมามาเล่าให้ฟังเลยฮ่าา

    ตอบลบ